เสี่ยจวบ (Marketing Case study)

ตอนนี้มีชื่อว่า เสี่ยจวบและการตลาด (Marketing Case study)

ในอดีตมีแววจะเป็นเสี่ยมาหลายยุคหลายสมัย แต่มันคงไม่ใช่สไตล์เรา เล่าเป็นกรณีศึกษาให้ฟังกัน ฮาๆ เพลินๆ เป็น Pain Point ในวิชาการตลาดที่ร่ำเรียนมา แล้วก็สอนด้วย

ตอนเริ่มเรียนปริญญาตรี ปีพ.ศ. 2529 ก็เริ่มทำเครื่องกรองน้ำขายกับอาที่เป็นทหารเรือ พอเสร็จก็เอาไปติดตามสถานบริการแถวพัฒน์พงษ์ เราทำโดยใช้ท่อ PVC 2 ท่อใหญ่ มาเชื่อมกันด้วยท่อเล็ก ปิดฝา ทำก๊อกให้มีระบบ Back Wash พ่นสีตกแต่ง แล้วใส่ถ่านกัมมันต์และผงเรซิ่น ออกแบบติดยี่ห้อ Bio Fresh มีโลโก้เป็นรูปหยดน้ำสีฟ้าและสายฟ้าสีแดง ทำ Silk Screen ออกมาสวยงาม ใช้ Word จุฬา ทำโบรชัวร์ (ตอนนั้น เพิ่งมีไมโครคอมพิวเตอร์ ระบบ MS DOS ยังไม่มี Windows) เรามีความสุขแค่ได้ทำ สินค้า ได้เชื่อม PVC และทำโบรชัวร์ต่างๆ ออกมา ตอนนั้นยังไม่มีน้ำขวดขาย ลองคิดดู ถ้าเริ่มขอ อย. และขายก็รวยเละแล้ว ตอนนี้เขาก็ยังทำและค้าขายกันอยู่

หลังจากนั้นสักพัก ก็เริ่มมีน้ำขวด PE ขาย มี อย. โดยใช้น้ำผ่านเครื่องกรองและแสง UV คล้ายๆ กับที่เราเคยทำ เหตุผลที่ขายดีก็เพราะสะดวกและน่าจะกำไรดีด้วย ช่วงหลัง เปลี่ยนเป็นขวด PET บริษัทใหญ่ๆ ก็ลงมาผลิตมากมาย และมีความต้องการตลอด ความต้องการนิยมไปยังตลาดทั่วประเทศและทั่วโลก ลองคิดดูถ้าเราเริ่มทำน้ำขวดขายตั้งแต่ช่วงนั้นก็คงรวยเป็นเสี่ยไปแล้ว

อันนี้ก็ยกเป็นกรณีศึกษาในเรื่อง Product Life Cycle ที่มีช่วงแนะนำเติบโต อิ่มตัว ตอนนี้ ก็ยังไม่ Declide และการทำธุรกิจต้องมีความชอบ ต้องจริงจัง คล้ายๆ เกมแก้จนในสมัยก่อน

อีกเคสหนึ่งที่เป็นเสี่ย เรื่องมีอยู่ว่า ตอนอยู่ปีที่ 3 มีเหตุจำเป็น เพราะหลุดทุนต้องหาเงินเรียนเอง จึงไปหาตลาดนมเกษตร โดยหาเอง ก็ได้มา 2 สาย ส่งเช้าเย็น แถวงามวงศ์วาน ติวานนท์ รายได้ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน เป็นเสี่ยตั้งแต่ก่อนจบ เที่ยวใช้เงินเพลินๆ ทุกสัปดาห์ ตอนจบมาก็ยังจ้างน้องให้ส่งนมต่อ แต่ก็มีปัญหาเรื่องการควบคุม น้องไม่ยอมไปเก็บเงิน และไม่ยอมดูแลรักษารถ ก็เลยขายให้น้องไปเลย อันนี้เป็นตัวอย่าง กรณีศึกษา ของการรับบริหารงานบุคคล ที่มีรายละเอียดจุกจิก เป็นที่ปวดหัวในทุกองค์กร

กรณีศึกษาถัดมาเป็นเครื่องล้างรถอัตโนมัติ เริ่มจาก....

กรณีศึกษาถัดมาเป็นเครื่องล้างรถอัตโนมัติ เริ่มจากได้ไปเห็นเครื่องหยอดเหรียญที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ จึงคิดจะมาทำเครื่องล้างรถอัตโนมัติ มีสวิตซ์ปิดเปิดน้ำแรงดันสูง และฉีดโฟมตั้งเวลาแบบหยอดเหรียญ จึง ซื้อหาและเริ่มเปลี่ยนโปรแกรมเปลี่ยนโปรแกรม Micro Controller ออกแบบวงจร สั่งทำกล่องเหล็ก เดินสายไฟ ใส่รีเลย์ควบคุมระบบปิดเปิดโฟม และตั้งเวลาเครื่องฉีดน้ำความดันสูง

สุดท้ายได้เครื่องมาสวยงาม แต่ก็ต้องไปยืนคุมเพราะน้ำแรงดันสูงน่าจะอันตราย จึงกลายมาเป็นเรื่องการตลาด ที่ต้องจ้างลูกน้อง และไปหาพื้นที่ในปั๊มลองทำดู 1 ปี ก็หายอยาก คิดจะมาจดสิทธิบัตรลองอยู่ 6 เดือนส่งเอกสารไป 3 ครั้งสุดท้ายหมดแรงเพราะต้องเขียนข้อถือสิทธิ์ ซึ่งต้องฝึกก็นำมาใช้เป็นกรณีในเรื่องของ Engineering Design ซึ่งจะพูดถึงในตอนต่อๆไป

การตลาดนั้นได้เรียนที่จุฬา ตอนเรียน ป.โท. ปี พ.ศ. 2535 เราเป็นนิสิตวิศวะ ไปเรียนกับคณะบัญชี ก็พูดไม่ค่อยทันเขา ตอนนั้นเขานำเสนอแผนการตลาด อาหารปิ่นโต Delivery เป็นที่สนุกสนาน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีระบบ Call Center ต่อมาก็มีพิซซ่า KFC และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนเรา Create ไม่เป็น ก็ไปเก็บข้อมูลบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ มานำเสนอ ได้เรื่อง Corporate image ซึ่งตอนนั้นเขาเริ่มทำกันแล้ว ต่อมาตอนนี้เขาก็เรียก CSR กัน

ในเรื่อง Product Life Cycle ที่ชอบยกตัวอย่างที่สอนการตลาด ก็คือ สเปรย์ดับกลิ่นกาย ที่ชื่อว่า วีโต้ ปราบเต่า ปลอดกลิ่น ตลอดวัน ถ้าจำไม่ผิดยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อแรกๆ เพราะมีการตลาดที่ดี เป็นที่ต้องการของตลาด ก็มีอีกหลายบริษัทเริ่มทำกัน

ปัจจุบันได้สอนการตลาดมา 3-4 ปี ที่ได้ริเริ่มใส่ไว้ในหลักสูตร ตอนนี้ก็เริ่มสอนการตลาดออนไลน์ ในเชิงปฏิบัติเพราะทำได้ง่าย มีทั้ง Lazada, Shopee, LINE shop, Facebook และการตั้งบริษัทจริงๆ

แต่จะกำไรหรือไม่ต้องดูกันต่อไป อาจจะเป็น Showcase หรือ Pain Point เสียมากกว่า แต่ฝันลึกๆ ก็อยากทำตลาดออนไลน์ในต่างประเทศ กำลังพยายามอยู่ ฝันอีกแล้ว พออยู่ด้วยความฝันก็มีความสุขไปอีกแบบ

 

Visitors: 18,174